ทรัพยากรที่สำคัญที่มีค่าที่สุดในองค์กร คือ พนักงาน ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการทำให้องค์กรไปสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ สิ่งที่องค์กรควรให้ความสำคัญกับพนักงานในฐานะทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า ด้วยการมองพนักงานไม่ใช่แค่ลูกจ้างเพื่อทำงานแลกเงิน แต่ต้องส่งความรักความผูกพันให้กับคนในองค์กรเสมือนญาติพี่น้องเดียวกันด้วยลักษณะที่ว่า “ยิ่งให้ยิ่งได้รับ” เกี่ยวกับการสร้างสุขให้พนักงานในองค์กร ทั้งด้านสุขภาพที่ดี สัมพันธภาพที่ดี มีสังคมที่ดี เพื่อมีความคิดสร้างสรรค์และพลังชีวิตในการพิชิตเป้าหมายขององค์กรให้สำเร็จ โดยสามารถทำได้ ดังนี้

1.สร้างสุขด้วยรอยยิ้ม

การเริ่มต้นด้วยรอยยิ้ม เป็นการเริ่มต้นที่ดีเสมอทั้งจากตัวเราเองได้มองโลกในแง่บวก ทำให้มีความสุขลดความตึงเครียด ไม่วิตกกังวลกับพลังลบ หากส่งยิ้มให้แก่กันทุกๆ วันจะเป็นการสร้างบรรยากาศแห่งความสุขในการทำงาน ทำให้งานเดินหน้า ดังนั้น เราต้องสร้างแบบอย่างของคนทำงานอย่างมีความสุขให้เกิดขึ้นก่อน เพื่อจะได้ส่งต่อพลังบวกนี้ให้กับทีมให้กับเพื่อนร่วมงานทุกๆ คนในองค์กรได้  

2.สื่อสารเชื่อมความสัมพันธ์

การกล่าวคำทักทาย อย่างเต็มใจอยู่เสมอเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีให้รู้สึกว่ามีปฏิสัมพันธ์กันทุกๆ วัน อาจทักทายด้วยคำว่า “สวัสดี เป็นอย่างไรบ้าง งานยุ่งไหม มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า” การแสดงออกด้วยคำพูดจากใจจริงเพียงแค่นี้ก็สามารถทำให้ผู้รับเกิดความรู้สึกดีๆ ภายในใจแล้วค่ะ

3. รู้จักตัวตนของพนักงาน

รู้จุดอ่อนจุดแข็งของพนักงานแต่ละคน เพื่อที่จะวางกลยุทธ์บริหารคนบริหารงานได้ถูก นำไปสู่การวางคนให้เหมาะกับงาน และเป็นการเพิ่มคุณภาพ เพิ่มความสุขให้คนทำงานได้อีกด้วย เพราะแต่ละคนมีความสามารถความถนัด ความรักความชอบ จุดอ่อน จุดแข็งต่างๆ กัน หากเราสามารถจับพฤติกรรม ความสามารถเหล่านี้ได้ และเลือกใช้คนให้เหมาะกับงาน จะเกิดความสุขสำเร็จในเนื้องานเดียวกันได้แล้วค่ะ

4. ให้อิสระในการคิดสร้างสรรค์

หากต้องการรักษาพนักงานที่ดีไว้ จงใช้หลักความยืดหยุ่น ให้อิสระในการคิดงาน สร้างแรงบันดาลใจพนักงาน เปิดโอกาสให้พวกเขาเติบโต พัฒนาจุดเด่นเสริมจุดด้อย ให้พวกเขาได้แสดงศักยภาพให้องค์กรจะทำให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุข และได้ผลงานที่มีคุณภาพองค์กรก็เติบโตตามไปด้วย และหากองค์กรมีระบบให้รางวัลพนักงาน ควรมีความยุติธรรมโปร่งใส เพื่อกระตุ้นให้แผนก ทีมงาน มีความกระตือรือร้นที่จะสร้างผลงานต่อเนื่องต่อไป

5. รับฟังให้มากขึ้น

เป็นผู้ฟังที่ดีให้พนักงานมีโอกาสได้เปิดใจ พูดคุยความรู้สึก เพื่อให้พวกเขาระบายความเครียดความวิตกกังวลหรือแชร์ปัญหาของงาน และนำมาแก้ปัญหาในการทำงานให้เกิดความสมดุลได้ หรืออาจส่งเสริมให้พนักงานมีโอกาสรวมกลุ่มไปพักผ่อนเปิดหูเปิดตานอกสถานที่ จัดกิจกรรมเชื่อมสัมพันธไมตรีต่อกันจะเป็นการเพิ่มพลัง สร้างทีมให้แข็งแกร่งสามารถพิชิตเป้าหมายองค์กรได้สำเร็จ

6. สร้างวัฒนธรรมแห่งการเกื้อกูล

หากองค์กรต้องการเติบโต ต้องสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้ชัดเจน ทุกคนมองเห็นเป้าหมายเดียวกันให้พนักงานแต่ละแผนกพึ่งพาซึ่งกันและกัน ทั้งด้านการทำงาน การตลาด ข้อมูลเพื่อนำมาสานต่อวิธีในการทำงาน หาทางออกร่วมกัน และเป็นการแก้ไขปัญหา หากเกิดขึ้นระหว่างการทำงานจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที อีกทั้งยังเป็นการลดความตึงเครียดจากบรรยากาศทำงานทำให้ทุกฝ่าย ทุกแผนกสามารถแชร์ไอเดียร่วมกันได้

ทั้ง 6 ข้อที่กล่าวมานี้ เป็นการสร้างความสุขของคนทำงานและจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการเปิดรับเปิดใจของทุกคนในองค์กร หากมีใจเดียวกัน มีความรัก ความเข้าใจ มุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน สร้างความสุขและความผูกพันแก่กัน พร้อมปฏิบัติตามกฎกติกา มีมารยาทแก่กัน ให้ความเคารพ ความเอื้ออาทรต่อกัน สำหรับองค์กรไหนสามารถปฏิบัติทุกด้านอย่างสม่ำเสมอดังที่กล่าวมา จนกลายเป็นวัฒนธรรมในองค์กรได้ องค์กรนั้นจะกลายเป็นองค์กรในฝันของพนักงาน รับรองว่าพนักงานไม่หนีจากไปไหนแน่นอนค่ะ