รู้ก่อน จ้างแรงงานต่างด้าวมาทำงาน
สำหรับนายจ้างหรือผู้ประกอบการที่กำลังมองหาแรงงานต่างด้าวมาทำงานจำเป็นต้องรู้กฎหมายเพื่อนำมาปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง เพราะในการจ้างแรงงานต่างด้าวนั้น ต้องมีการทำ MOU ซึ่งถือว่าแรงงานเข้ามาทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งค่าใช้จ่ายในการทำ MOU ของแต่ละประเทศนั้นก็แตกต่างกัน โดยนายจ้างสามารถดำเนินการด้วยตนเองได้ หรือผ่านบริษัทนำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศอย่างถูกกฎหมายก็สามารถทำได้เช่นกัน
โดยจะเสียค่าตรวจสุขภาพ 500 บาท ประกันสุขภาพ 2 ปี 3,200 บาท (สำหรับผู้ที่ยังไม่มีประกันสังคม) และประกันสุขภาพ 3 เดือน สำหรับเข้าประกันสังคมใหม่ นอกจากนี้ยังมีการจ่ายค่าลงตราวีซ่า ปีล่ะ 1,900 บาท ใบอนุญาตทำงาน 2 ปี 1,900 บาท กรณีนายจ้างดำเนินการด้วยตนเอง เงินประกัน 1,000 บาท และค่าธรรมเนียมบัตร 80 บาท รวมๆ แล้ว กรณีมีประกันสังคม 6,980 บาท และกรณีไม่มีประกันสังคม 8,580 บาท
สิทธิประกันสังคมแรงงานต่างด้าว
แรงงานต่างด้าวจะได้รับสิทธิความคุ้มครอง 7 กรณี ซึ่งรวมถึงการรักษาพยาบาลต่างๆ จากกองทุนประกันสังคมเช่นเดียวกับแรงงานไทย คือ
กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตราย
กรณีคลอดบุตร
กรณีทุพพลภาพ
กรณีเสียชีวิต
กรณีสงเคราะห์บุตร
กรณีชราภาพ
กรณีว่างงาน
กล่าวได้ว่า หากลงทะเบียนอย่างถูกกฎหมาย แรงงานต่างด้าวจะได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันในการรักษาพยาบาล
ทั้งนี้ ต่างด้าวที่สามารถมาทำงานกรรมกร และงานขายหน้าร้านได้นั้น จะต้องมีการระบุเอาไว้ในใบอนุญาตทำงานระบุสิทธิว่า “สามารถทำงานกรรมกร หรืองานขายของหน้าเรา เท่านั้น”
หากไม่ระบุ นายจ้างหรือสถานประกอบการ สามารถยื่นขอเปลี่ยนหรือเพิ่มประเภทงานกรรมกร หรืองานหน้าร้าน ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือโทรสายด่วนได้ที่ 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน
และหากไม่ปฏิบัติตาม ถือว่าผิดกฎหมาย ตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยคนต่างด้าวจะมีความผิดตามมาตรา 8 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท และเมื่อได้ชำระค่าปรับแล้ว ให้ส่งคนต่างด้าวผู้นั้นกลับออกไปนอกราชอาณาจักร
ส่วนนายจ้าง ผิดมาตรา 9 ระวางโทษ ปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้าง 1 คน และหากเป็นการกระทำความผิดครั้งที่ 2 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000-200,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้าง 1 คน หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามผู้นั้นจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษ
ดังนั้น ควรปฏิบัติให้ถูกกฎหมาย เพื่อความสบายใจ และสบายกระเป๋าของตนเองนะคะ