7 นิสัยโดดเด่นของพนักงานที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
จุดประสงค์ของการเลื่อนตำแหน่งให้กับพนักงานนั้น ทางบริษัทไม่ได้เพียงต้องการให้พนักงานมีความกระตือรือร้นในการทำงานให้ดีขึ้นเท่านั้น หากแต่ต้องการให้พนักงานที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเหล่านั้นก้าวไปสู่ขั้นตอนการทำงานแบบมืออาชีพด้วย ดังนั้น คุณต้องพิสูจน์ให้ฝ่ายบริหารผู้มีอำนาจตัดสินใจเห็นว่าคุณมีความพร้อมในทุก ๆ ด้านที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น หากตอนนี้ คุณรู้สึกเบื่อ ท้อแท้ หมดหวังกับช่วงเวลาการปรับเลื่อนตำแหน่งที่จะมีขึ้นภายในบริษัทของคุณในเร็ว ๆ นี้ คุณลองหาเวลาตรวจสอบนิสัยในการทำงานของคุณว่าคุณมีลักษณะนิสัย 7 อย่างที่ดีนี้หรือไม่ หากไม่มี หรือมีไม่ครบก็ลองปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอีกเล็กน้อย เพื่อพร้อมที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าในอาชีพการงานของคุณ
1. กำหนดเป้าหมายในอาชีพของคุณให้ชัดเจน
เมื่อคุณเลือกอาชีพของคุณได้แล้ว สิ่งแรกที่คุณควรทำคือกำหนดเป้าหมายในอาชีพของคุณให้ชัดเจน คุณอาจจะหารือเกี่ยวกับเป้าหมายของคุณอย่างเปิดกว้างกับเจ้านายของคุณ แต่นั่นต้องหมายถึงว่าเจ้านายของคุณมีอุปนิสัยใจคอที่กว้างมากเพียงพอที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้พนักงานภายใต้บังคับบัญชาของเขามีความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน แต่หากโชคร้ายไปเจอเจ้านายที่กีดกันการเติบโต ก็ลองคิดและกำหนดเป้าหมายในอาชีพด้วยตัวเองก่อน อาจจะเริ่มกำหนดเป้าหมายแบบสั้น ๆ เช่น 6 เดือน , 1 ปี, หรือมากกว่านั้น คุณจะได้รับมอบหมายให้ทำงานโครงการที่สำคัญ และนั่นจะเป็นโปรไฟล์ที่ดีของคุณเมื่อถึงเวลาที่บริษัททำการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งให้กับพนักงาน
2. ทำงานร่วมกันเป็นทีม
ทุกวันนี้การทำงานภายในองค์กร บริษัทมักจะมีนโยบายให้ทำงานกันเป็นทีม เพราะการทำงานเป็นทีมจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานดีขึ้น และช่วยเพิ่มศักยภาพของงานด้วย การทำงานเป็นทีมช่วยให้พนักงานที่อยู่ภายในทีมมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน รู้สึกมีแรงกระตุ้นในการทำงาน และคิดเสมอว่าตัวเองเป็นกลไกที่สำคัญในทีม ทำให้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานเพิ่มมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ ยังทำให้มีเวลาเหลือไปอาสาทำงานอื่น ๆ ให้กับองค์กร การทำเช่นนี้นอกจากเป็นการแสดงน้ำใจจิตอาสาให้กับองค์กรได้เห็นแล้ว ยังเป็นการแสดงความกระตือรือร้นในการทำงานและทำให้พนักงานมีความรู้ความเข้าใจในการทำงานภาพรวมมากยิ่งขึ้นด้วย ทำให้มีโอกาสก้าวหน้าในอาชีพการงานของตัวเอง ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อถึงเวลาที่ต้องพิจารณาปรับเลื่อนตำแหน่งงาน พนักงานผู้มีอุปนิสัยเช่นนี้ จะได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้เลื่อนตำแหน่งก่อน
3. ขาดเรา เขา(บริษัท) ลำบาก
คุณเคยมีประสบการณ์แบบนี้บ้างไหมในวันที่คุณลางานแล้วจะต้องมีเพื่อนร่วมงาน, หัวหน้างาน, หรือแม้แต่เจ้านาย โทรถามคุณตลอด เพื่อสอบถามเรื่องงาน ถ้าหากเป็นเช่นนี้ละก็ แสดงว่าคุณมีความสำคัญในองค์กร เป็นฟันเฟืองที่สำคัญขององค์กร การจะเป็นเช่นนี้ได้แสดงว่าคุณต้องโดดเด่นกว่าใคร โดยคุณจะต้องฝึกฝน สร้างความรู้ความสามารถเฉพาะด้านให้กับตัวเอง สร้างความน่าเชื่อถือให้เพื่อนร่วมงานและองค์กร ยกตัวอย่างเช่น คุณมีศักยภาพในการจัดการกับลูกค้าที่ท้าทาย ไม่มีใครจัดการได้ ต้องเป็นคุณคนเดียวเท่านั้น ผู้คนที่อยู่ในตำแหน่งเช่นนี้ไม่เพียง แต่เป็นเพื่อนร่วมงานที่ได้รับการเรียกร้องเท่านั้น แต่ยังถูกมองว่าเป็นผู้นำเพราะพวกเขาโดดเด่นกว่าใคร
4. เรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
จงแสดงให้หน้าหน้าของคุณเห็นว่า คุณมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะแสวงหาความรู้เพื่อปรับปรุงและพัฒนาทักษะในการทำงานของคุณอย่างต่อเนื่อง โดยการแสวงหาโอกาสทั้งภายในองค์กรและภายนอกองค์กร ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจลงทะเบียนสัมมนาในแต่ละเดือน แม้บริษัทไม่มีงบประมาณสนับสนุนในการอบรมสัมมนา แต่เมื่อได้ความรู้ คุณก็ยินดีที่จะใช้เงินส่วนตัวของคุณในการเรียนรู้พัฒนาทักษะในสายงานของคุณ หรือไม่คุณอาจจะรับ project ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับสายงานของคุณจากภายนอกมาทำ สิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่าคุณมีความจริงจัง มุ่งมั่นที่จะพัฒนาทักษะในอาชีพของคุณมากแค่ไหน คุณไม่เคยรอที่จะให้โอกาสเข้ามาหาคุณ แต่คุณเลือกที่จะวิ่งไปหาโอกาสเสมอ ๆ
5. บันทึกผลการทำงาน
การทำงานทุกอย่าง ทุกครั้ง คุณควรที่จะมีการบันทึกผลการทำงานของคุณไว้ ไม่ว่ามันจะสำเร็จ ล้มเหลว มีปัญหา หรือราบรื่น เพราะข้อมูลเหล่านี้เป็นบันทึกที่มีคุณค่าสำหรับการวางแผนทำงานในอนาคต เพราะนำมาใช้ในการประมวลผลการทำงานภาพรวมให้กับองค์กรได้ การทำเช่นนี้ ไม่ใช่การทำเพื่อสร้างโปรไฟล์ให้กับตัวคุณเองว่าคุณทำงานอะไรสำเร็จไปบ้าง แต่กลับเป็นการสร้างฐานข้อมูลที่เป็นจริงและมีคุณค่าทางธุรกิจให้กับองค์กร การเก็บบันทึกทุกสิ่งที่คุณทำจะช่วยเพิ่มผลกำไรในอนาคตให้กับองค์กรได้ ซึ่งจะแสดงถึงความรักภักดีและมุ่งมั่นต่อองค์กรนั่นเอง
6. แสดงศักยภาพความเป็นผู้นำ
การมีทักษะความเป็นผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นการมี passion ในการทำงาน, ความเด็ดเดี่ยว, ความมั่นใจ, ความน่าเชื่อถือ ทักษะเหล่านี้คุณมีหรือไม่ เพราะคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับปรับเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้นได้ ต้องมีคุณสมบัติความเป็นภาวะผู้นำ และสิ่งสำคัญอันดับแรกในการเป็นภาวะผู้นำคือการทำหน้าที่อย่างหนึ่ง นั่นคือวางตัวเป็นกลาง ไม่เข้าไปยุ่งกับการเมืองในองค์กร, หรือการมาทำงานให้ตรงเวลา หรือถ้าจะให้ดีอาจจะมาทำงานก่อนเวลาเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน ผู้นำต้องเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับพนักงานภายใต้บังคับบัญชาของพวกเขา หากคุณปราศจากทักษะเหล่านี้ก็ยากที่จะได้รับการปรับเลื่อนตำแหน่ง
7. สร้างเครือข่ายโยงใยความสัมพันธ์
จงสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับทุกคนในองค์กร ไม่ว่าคนกลุ่มนั้นจะอยู่ในระดับล่าง, กลาง, หรือระดับสูงสุด พยายามเก็บเกี่ยวทุกโอกาสที่คุณมีเครือข่ายแม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม เช่น รับประทานอาหารกับเพื่อนร่วมงานใหม่, ไปงานเลี้ยงบริษัท, การร่วมวางแผนเช็คสต๊อก หรืออื่น ๆ การสร้างเครือข่ายกับผู้อื่นในองค์กรของคุณจะช่วยให้คุณรู้จักผู้คนที่สามารถให้การสนับสนุนคุณได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสในการส่งเสริมทักษะของคุณ โดยคุณสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่คล้ายกันได้โดยการมีส่วนร่วมกับกลุ่มในองค์กรของคุณ
จำไว้ว่า การสร้างเครือข่ายโยงใยความสัมพันธ์กับคนหรือกลุ่มคนในองค์กรนั้น สิ่งสำคัญที่คุณจะทลายกำแพงได้ นั่นคือ “ความจริงใจและเจตนาที่ดี” อย่าเข้าไปเพื่อเอาเปรียบและแสวงหาผลประโยชน์จากพวกเขาเหล่านั้น เพราะหากคุณทำเช่นนั้น นอกจากจะไม่ได้สัมพันธภาพที่ดีจากพวกเขาแล้ว ยังอาจะเป็นการเพิ่มศัตรูในที่ทำงานไปโดยไม่ตั้งใจ
การได้รับการเลื่อนตำแหน่งในบริษัทไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งเป็นองค์กรใหญ่ ๆ ด้วยแล้ว เพราะมีการแข่งขันที่สูงมาก ดังนั้น คุณต้องทุ่มเทเวลาเรียนรู้และอุทิศตนให้กับตัวเองและองค์กรโดยการใช้เคล็ดลับดี ๆ 7 ข้อนี้เดินทางไปสู่เป้าหมายในอาชีพของคุณ
“จงอย่าคิดที่จะทำดีเพื่อได้รับการปรับเลื่อนตำแหน่งในองค์กรเท่านั้น แต่จงคิดว่าการพัฒนาปรับปรุงตัวเองเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์กับตัวเองในอนาคต แม้วันนี้คุณอาจจะยังทำคะแนนไม่เข้าตากรรมการ แต่เชื่อว่าวันหนึ่งต้องเป็นวันของคุณ หากคุณไม่หยุดพัฒนาตนเอง”