ภาวะหมดไฟในการทำงาน

ภาวะหมดไฟ หรือ Burnout Syndrome เป็นภาวะของการอ่อนล้าทางอารมณ์ เป็นผลจากความเครียดเรื้อรังจากการทำงานหนัก หรืองานมีความซับซ้อน งานเร่งด่วน อาจทำให้วัยทำงานเกิดภาวะ BURNOUT SYNDROME หรือภาวะหมดไฟในการทำงานได้ ซึ่งการปล่อยไวนานๆ ไม่ได้รับการแก้ไข อาจเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าได้
องค์การอนามัยโลก ได้ให้อาการหลัก 3 อาการที่กล่าวถึงภาวะหมดไฟว่า คือ อาการที่รู้สึกเสียพลังงาน อ่อนเพลีย รู้สึกต่อต้าน มองงานของตนเองในเชิงลบ ห่างเหินจากเพื่อนร่วมงาน ขาดความผูกพันกับสถานที่ทำงาน
คนในวัยทำงาน อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหมดไฟได้ หากรู้สึกว่าตนเองมีความเหนื่อยล้าจากการทำงาน เบื่อหน่าย ไม่รู้สึกอยากทำอะไร ร่างกายไม่มีพลังทางจิตใจลุกขึ้นสู้งานต่อ มองเห็นงานในเชิงลบ ขาดความสุข ความสนุกกับงาน นอกจากจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานต่ำแล้ว นานวันเข้าอาจเกิดโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน
สาเหตุการเกิดภาวะหมดไฟจากการทำงาน
- แบกรับความกดดันจากการทำงานบ้านเกินไป
 - ความคาดหวังสูงไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง
 - ยึดติดกับความสมบูรณ์แบบ
 - ทำงานแบบไม่มีวันหยุด
 - ใช้ชีวิตอยู่ในรูปแบบเดิมๆ
 - เหนื่อยสะสมต่อเนื่องกัน
 - ความนับถือตนเองต่ำ รู้สึกไร้ค่า
 
วิธีป้องกันแก้ไข ภาวะหมดไฟ
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
 - อย่าเสียเวลากับความกังวลเรื่องงานมากเกินไป
 - พัฒนาทักษะในการจัดการปัญหา
 - รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ กินอาหารที่มีประโยชน์
 - ลดความเครียดลง ดูหนัง ฟังเพลง ออกกำลังกาย
 - ปรับทัศนคติในการทำงาน ทำความเข้าใจในเนื้องานและองค์กรที่ทำงานด้วย
 - ปรึกษาคนรอบข้าง เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน หลีกเลี่ยงความคิดเชิงลบ
 
Burnout Syndrome สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนโดยเฉพาะคนที่ใช้ชีวิตแบบขาดสมดุล โหมงานหนักเกินไป แบกรับความเสี่ยง ความกดดัน ความคาดหวัง ทำให้มีทัศนคติเชิงลบกับงานที่ทำ และนำไปสู่ภาวะหมดไฟในที่สุด สำหรับใครที่กำลังมีอาการเบื่องาน ภาวะหมดไฟ หมดแรงจูงใจ รู้สึกอึดอัด หดหู่ ไม่มีความสุข รู้สึกไม่อยากไปทำงาน ต้องเฝ้าระวัง สังเกตอาการ อย่านิ่งนอนใจจนเกินไป อาจส่งผลกระทบร้ายแรงจนกระทั่งไม่อยากมีชีวิตอยู่ได้ สำหรับใครที่มีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อเข้ารับการรักษา และดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี ก่อนปัญหาจะลุกลามไปสู่โรคอื่นๆ ที่รักษาได้ยากกว่า สิ่งสำคัญเมื่อต้องเผชิญกับภาวะหมดไฟในการทำงาน หรือ Burnout Syndrome คือ การหยุดพักผ่อน ให้เวลาตัวเองได้จัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกาย อารมณ์ จิตใจ เพื่อปรับสมดุลชีวิตให้กลับสู่ภาวะปกติ และหา Work Life Balance ในการทำงาน เพื่อป้องกันไม่ให้กลับมามีภาวะ Burnout อีกลองนำไปปรับใช้ดูนะคะ
