Latest HR Knowledge

เทคนิคการผ่อนคลายความตึงเครียด

 

ความเครียดเป็นภาวะสะสมที่ทำลายสุขภาพของร่างกาย ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย ปัจจุบันพบว่าคนส่วนใหญ่สะสมความเครียดเนื่องมาจาก แรงกดดัน และความคาดหวัง ไม่ว่าจะจากที่ทำงานหรือครอบครัว ทำให้เกิดความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัวได้ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในปัจจุบันทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลกระทบให้ผู้คนต้องแบกรับภาระที่หนักอึ้ง ปัญหาค่าครองชีพสูง การว่างงาน ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจได้ บางรายอาจส่งผลระยะยาวป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หรือวิตกกังวลในอนาคต และเพื่อเป็นการลดความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจึงได้นำเทคนิคการผ่อนคลายความเครียดมาฝาก จะมีอะไรบ้างนั้นตามมาดูกันได้เลยค่ะ

1. บำบัดด้วยสิ่งที่ชอบ

รู้ไหมว่า เวลาที่ร่างกายเครียดจะหลั่งฮอร์โมนที่ชื่อว่า คอร์ติซอล (Cortisol) ออกมาทำให้ระดับน้ำตาลในร่างกายมากขึ้น ทำให้หลายคนเกิดภาวะตึงเครียด และกลายเป็นโรคอ้วนไม่รู้ตัว ฉะนั้นวิธีที่จะบำบัดความเครียดได้ คือ ให้หันไปหาความสุข ด้วยการทำในสิ่งที่ชอบ เพื่อให้เอ็นโดรฟิน (Endorphin) หรือฮอร์โมนแห่งความสุขหลั่งออกมา เช่น ออกไปดูหนัง ฟังเพลง วาดภาพ หรือทำกิจกรรมที่ตัวเองมีความสุข เล่นกีฬา เล่นเกมฯ เพียงแค่นี้ก็เพิ่มระดับความสุขง่ายๆ ให้กับตัวเองได้แล้วค่ะ

2. อาหารเยียวยาทุกสิ่ง

ยิ่งตกอยู่ในสภาวะเครียด เราจะมีความต้องการอาหารมากกว่าปกติ หิวง่าย หากตามใจปากมากๆ สุดท้ายต้องทรมานกับร่างกายที่ไม่แข็งแรง เมื่อน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้น ทางออกที่ดีควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จำพวก ปลา ไข่ ถั่ว ธัญพืช และผักใบเขียว เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานเอาไปหล่อเลี้ยงสมองและร่างกายได้ นอกจากนี้ควรเติมวิตามินซี แมกนีเซียมและโพแทสเซียมจะช่วยลดความเศร้าหมองทำให้ร่างกายดีขึ้นได้

3. ออกกำลังกายเบาๆ

การออกกำลังกายเบาๆ จะช่วยลดความเครียดสะสมจากความเหนื่อยล้าจากการนั่งโต๊ะทำงานทั้งวันได้ โดยเฉพาะคนที่ต้องเผชิญอยู่กับออฟฟิศซินโดรม การได้ลุกนั่ง เดิน ยืดเส้นยืดสาย ถือเป็นการออกกำลังกายเบาๆ เป็นการได้พักสมองจากความเหนื่อยล้า และยังช่วยให้มีสมาธิในการทำงานยิ่งขึ้น

4. จัดสรรเวลาทำงานและการพักผ่อน

การทำงานในแต่ละวันหากไม่จัดสรรเวลาให้ดีๆ อาจเกิดภาวะความตึงเครียดได้ เพื่อเป็นการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ควรจัดสรรเวลาแห่งการพักผ่อนควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ร่างกายและสมองได้พักผ่อน คุณจะได้เกิดไอเดียในการทำงาน เพราะหากมัวแต่หักโหมหามรุ่งหามค่ำ จนร่างกายอ่อนล้า จนถูกความเครียดแทรกแซงจะเกิดความเครียดสะสมกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้

แม้ว่าข้อมูลข้างต้นสามารถลดความเครียดได้ แต่สิ่งสำคัญอย่าลืมใช้ชีวิตให้สมดุล กิน เที่ยว ทำงาน พักผ่อน ทำบุญ เพื่อให้จิตใจและร่างกายแข็งแรงกันนะคะ นอกจากนี้ควรเลี่ยงเครื่องดื่มพวกกาแฟ ยาชูกำลัง สารต่างๆ ที่มีผลกระตุ้นร่างกาย เพราะอาจทำให้ร่างกายอ่อนล้าไม่ได้พักผ่อน จนส่งผลสู่ภาวะความตึงเครียดได้ ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลคร่าวๆ ลองนำไปปรับใช้กับชีวิตดูนะคะ เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายและมีความสุขในชีวิตยิ่งขึ้น

 

Contact button