Latest HR Knowledge

วิธีจัดการกับความโกรธในที่ทำงาน

มนุษย์เราต่างมีหลากหลายอารมณ์ ขึ้นอยู่แต่ละสถานการณ์ โดยได้รับอิทธิพลมาจากการใช้ชีวิตที่ไม่ว่ากับตัวเอง หรือคนในสังคมโดยเฉพาะในช่วงเวลาทำงาน เป็นเรื่องปกติที่ต้องพบเจอกับสภาวะเครียด กดดัน ความขัดแย้ง จนทำให้เกิดความรู้สึกทุกข์ เบื่อหน่าย ท้อแท้ สิ้นหวังในการทำงาน เพราะอารมณ์เป็นพื้นฐานของมนุษย์ที่ต้องมี โดยเฉพาะความโกรธเป็นหนึ่งในอารมณ์พื้นฐานของมนุษย์ที่มีผลต่อการทำงานร่วมกับผู้อื่น บ่อยครั้งที่เราจะรู้สึกโกรธเมื่อมีสิ่งมากระตุ้นให้เกิดความผิดหวังไม่พอใจ ความโกรธอาจไม่ได้มาจากสิ่งกระตุ้นจากตัวบุคคลหรือสถานการณ์ทำงานเสมอไป บางครั้งอาจมาจากตัวเราเอง ที่มีนิสัยขี้กังวลและมองโลกในแง่ร้าย ปัญหาความเครียดในการทำงาน การเงิน สุขภาพ ความสัมพันธ์กับครอบครัวได้ ดังนั้น การมุ่งปรับเปลี่ยนองค์กรหรือตัวบุคคลอื่นเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ซึ่งทางที่ดีกว่า ง่าย และเร็วกว่า คือ การฝึกฝนตัวเองให้สามารถจัดการความโกรธของตัวเอง หรือเรียกว่า เป็นคนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ หรือ EQ (Emotional Quotient) จะทำให้ทำงานได้อย่างมั่นคงและกลายเป็นมืออาชีพได้ เพราะ EQ มีความสำคัญกับการทำงาน เป็นตัวช่วยที่คอยเผชิญหน้ากับปัญหาได้ เพราะเราไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ภายนอกได้ แต่เราสามารถควบคุมตนเองได้ และยังช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีในการเป็นผู้นำ พร้อมที่จะเติบโตในหน้าที่การงาน โดย EQ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้ง 5 ด้าน

1. ตระหนักรู้ในตัวเอง (Self-Awareness)

เข้าใจรับรู้ถึงอารมณ์ของตัวเอง ว่าเราเป็นคนแบบไหน มีข้อดีข้อด้อยอะไร สามารถปรับปรุงแก้ไขตรงไหนได้บ้าง เรียกว่า เป็นคนมีสติ รู้เท่าทันตนเองตลอดเวลา สามารถจัดการกับตัวเองได้

2. ควบคุมตัวเองได้ (Self-Regulation)

เมื่อตระหนักรู้แล้วว่า การแสดงออกของตนเองจะมีผลกระทบกับผู้อื่น ดังนั้น จึงต้องควบคุมตนเองให้ได้ ไม่แสดงออกในทางลบต่อหน้าผู้อื่น ควบคุมตนเองในที่ทำงานได้ดีอย่างมืออาชีพ มีความยืดหยุ่นเปลี่ยนแปลงปรับตัวได้เสมอ สามารถควบคุมอารมณ์ โดยใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์

3. เห็นอกเห็นใจผู้อื่น (Empathy)

มีความสามารถรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่น ต่อเพื่อนร่วมงานว่าอารมณ์ดีหรือไม่ดี ด้วยการสังเกต ภาษากาย น้ำเสียง แววตา เมื่อเห็นดังนั้นควรใส่ใจพิเศษ ด้วยการแสดงความเห็นอกเห็นใจ เปิดใจรับฟังปัญหา เพื่อช่วยแบ่งเบา ปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมที่ดีกับเพื่อนร่วมงานกับคนอื่นๆ ได้

4. อยู่ร่วมกับผู้อื่น (Social Skills)

เมื่อเข้าใจอารมณ์ของผู้อื่น จะช่วยให้เราปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมอยู่ร่วมกันกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ได้ ลดบรรยากาศสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานไม่ดี ทำให้เกิดความสามัคคีกัน ช่วยเหลือรับฟังกันทำให้งานสำเร็จโดยง่าย

5. มีแรงจูงใจ (Motivation)

มีเป้าหมายแรงจูงใจ มุ่งมั่นที่จะสำเร็จพัฒนาตนเองตลอดเวลาไปพร้อมกับงานที่ทำ เรียกว่า มีความกระตือรือร้น ส่งผลพลังบวกให้เพื่อนร่วมงานทำให้รับพลังบวก เชื่อมั่นในความสำเร็จ คิดบวกตามไปด้วย

ในการทำงานทักษะความฉลาดทางอารมณ์ด้าน EQ มีความจำเป็นสามารถสร้างองค์กรให้แข็งแกร่งได้หากอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีความสุขมากกว่าทุกข์ มีความเข้าใจกันกับเพื่อนร่วมงานจะทำให้งานสำเร็จโดยง่าย เพราะการทำงานที่มีความฉลาดทางอารมณ์ ไม่ยอมให้อารมณ์มารบกวนคุณภาพงาน หรือความสัมพันธ์ของทีมจะทำให้ทีมแข็งแกร่ง ซึ่งต้องหมั่นฝึกฝน เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง ควบคุมตนเองให้ได้ รู้ทันและยอมรับความโกรธที่เกิดขึ้น ทำความเข้าใจธรรมชาติความโกรธของตัวเอง แม้เรามีสิทธิที่จะโกรธ แต่ควรโกรธอย่างมีสติ ไม่ทำร้ายตนเอง ไม่ทำร้ายผู้อื่นหรือองค์กรของคุณ หลีกเลี่ยงการโต้ตอบเมื่อเวลาโกรธ หาพื้นที่จัดการกับอารมณ์กับตัวเองให้ได้ ลองฝึกด้วยการหายใจเข้าออก ควบคุมลมหายใจให้ช้าลง นับถอยหลังจาก 10 ไปถึง 0 ซ้ำๆ จนรู้สึกผ่อนคลาย อาจพักด้วยการฟังเพลง ดื่มน้ำ หาพื้นที่เพียงลำพัง และหยุดคิด ปรับองศาความคิดเป็นเชิงบวก เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ยึดติดกับอารมณ์โกรธ หลีกเลี่ยงการปะทะ แยกแยะความโกรธจากเรื่องส่วนตัวออกจากการทำงานและนอกเหนือจากเวลาทำงานแล้ว ควรเติมพลังบวกให้กับตัวเอง เลือกใช้เวลาอยู่กับคนที่เห็นคุณค่า เคารพในตัวเอง หันไปออกกำลังกาย นั่งสมาธิ ทำงานศิลปะจะทำให้คุณสามารถควบคุมความโกรธให้ดีขึ้น ซึ่งจะถือว่าเป็นผู้มีความฉลาดทางอารมณ์จะหยิบจับทำอะไรก็สำเร็จ เพราะคุณสามารถควบคุมอารมณ์ภายในจิตใจของตัวเองได้แล้ว

วิธีจัดการกับความโกรธในที่ทำงาน

รูปภาพประกอบด้วย ข้อความ

คำอธิบายที่สร้างโดยอัตโนมัติ

          มนุษย์เราต่างมีหลากหลายอารมณ์ ขึ้นอยู่แต่ละสถานการณ์ โดยได้รับอิทธิพลมาจากการใช้ชีวิตที่ไม่ว่ากับตัวเอง หรือคนในสังคมโดยเฉพาะในช่วงเวลาทำงาน เป็นเรื่องปกติที่ต้องพบเจอกับสภาวะเครียด กดดัน ความขัดแย้ง จนทำให้เกิดความรู้สึกทุกข์ เบื่อหน่าย ท้อแท้ สิ้นหวังในการทำงาน เพราะอารมณ์เป็นพื้นฐานของมนุษย์ที่ต้องมี โดยเฉพาะความโกรธเป็นหนึ่งในอารมณ์พื้นฐานของมนุษย์ที่มีผลต่อการทำงานร่วมกับผู้อื่น บ่อยครั้งที่เราจะรู้สึกโกรธเมื่อมีสิ่งมากระตุ้นให้เกิดความผิดหวังไม่พอใจ ความโกรธอาจไม่ได้มาจากสิ่งกระตุ้นจากตัวบุคคลหรือสถานการณ์ทำงานเสมอไป บางครั้งอาจมาจากตัวเราเอง ที่มีนิสัยขี้กังวลและมองโลกในแง่ร้าย ปัญหาความเครียดในการทำงาน การเงิน สุขภาพ ความสัมพันธ์กับครอบครัวได้ ดังนั้น การมุ่งปรับเปลี่ยนองค์กรหรือตัวบุคคลอื่นเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ซึ่งทางที่ดีกว่า ง่าย และเร็วกว่า คือ การฝึกฝนตัวเองให้สามารถจัดการความโกรธของตัวเอง หรือเรียกว่า เป็นคนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ หรือ EQ (Emotional Quotient) จะทำให้ทำงานได้อย่างมั่นคงและกลายเป็นมืออาชีพได้ เพราะ EQ มีความสำคัญกับการทำงาน เป็นตัวช่วยที่คอยเผชิญหน้ากับปัญหาได้ เพราะเราไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ภายนอกได้ แต่เราสามารถควบคุมตนเองได้ และยังช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีในการเป็นผู้นำ พร้อมที่จะเติบโตในหน้าที่การงาน โดย EQ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้ง 5 ด้าน

1.      ตระหนักรู้ในตัวเอง (Self-Awareness)

เข้าใจรับรู้ถึงอารมณ์ของตัวเอง ว่าเราเป็นคนแบบไหน มีข้อดีข้อด้อยอะไร สามารถปรับปรุงแก้ไขตรงไหนได้บ้าง เรียกว่า เป็นคนมีสติ รู้เท่าทันตนเองตลอดเวลา สามารถจัดการกับตัวเองได้

 

2.      ควบคุมตัวเองได้ (Self-Regulation)

เมื่อตระหนักรู้แล้วว่า การแสดงออกของตนเองจะมีผลกระทบกับผู้อื่น ดังนั้น จึงต้องควบคุมตนเองให้ได้ ไม่แสดงออกในทางลบต่อหน้าผู้อื่น ควบคุมตนเองในที่ทำงานได้ดีอย่างมืออาชีพ มีความยืดหยุ่นเปลี่ยนแปลงปรับตัวได้เสมอ สามารถควบคุมอารมณ์ โดยใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์

 

3.      เห็นอกเห็นใจผู้อื่น (Empathy)

มีความสามารถรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่น ต่อเพื่อนร่วมงานว่าอารมณ์ดีหรือไม่ดี ด้วยการสังเกต ภาษากาย น้ำเสียง แววตา เมื่อเห็นดังนั้นควรใส่ใจพิเศษ ด้วยการแสดงความเห็นอกเห็นใจ เปิดใจรับฟังปัญหา เพื่อช่วยแบ่งเบา ปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมที่ดีกับเพื่อนร่วมงานกับคนอื่นๆ ได้

 

4.      อยู่ร่วมกับผู้อื่น (Social Skills)

เมื่อเข้าใจอารมณ์ของผู้อื่น จะช่วยให้เราปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมอยู่ร่วมกันกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ได้ ลดบรรยากาศสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานไม่ดี ทำให้เกิดความสามัคคีกัน ช่วยเหลือรับฟังกันทำให้งานสำเร็จโดยง่าย

 

5.      มีแรงจูงใจ (Motivation)

มีเป้าหมายแรงจูงใจ มุ่งมั่นที่จะสำเร็จพัฒนาตนเองตลอดเวลาไปพร้อมกับงานที่ทำ เรียกว่า มีความกระตือรือร้น ส่งผลพลังบวกให้เพื่อนร่วมงานทำให้รับพลังบวก เชื่อมั่นในความสำเร็จ คิดบวกตามไปด้วย

 

ในการทำงานทักษะความฉลาดทางอารมณ์ด้าน EQ มีความจำเป็นสามารถสร้างองค์กรให้แข็งแกร่งได้หากอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีความสุขมากกว่าทุกข์ มีความเข้าใจกันกับเพื่อนร่วมงานจะทำให้งานสำเร็จโดยง่าย เพราะการทำงานที่มีความฉลาดทางอารมณ์ ไม่ยอมให้อารมณ์มารบกวนคุณภาพงาน หรือความสัมพันธ์ของทีมจะทำให้ทีมแข็งแกร่ง ซึ่งต้องหมั่นฝึกฝน เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง ควบคุมตนเองให้ได้ รู้ทันและยอมรับความโกรธที่เกิดขึ้น ทำความเข้าใจธรรมชาติความโกรธของตัวเอง แม้เรามีสิทธิที่จะโกรธ แต่ควรโกรธอย่างมีสติ ไม่ทำร้ายตนเอง ไม่ทำร้ายผู้อื่นหรือองค์กรของคุณ หลีกเลี่ยงการโต้ตอบเมื่อเวลาโกรธ หาพื้นที่จัดการกับอารมณ์กับตัวเองให้ได้ ลองฝึกด้วยการหายใจเข้าออก ควบคุมลมหายใจให้ช้าลง นับถอยหลังจาก 10 ไปถึง 0 ซ้ำๆ จนรู้สึกผ่อนคลาย อาจพักด้วยการฟังเพลง ดื่มน้ำ หาพื้นที่เพียงลำพัง และหยุดคิด ปรับองศาความคิดเป็นเชิงบวก เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ยึดติดกับอารมณ์โกรธ หลีกเลี่ยงการปะทะ แยกแยะความโกรธจากเรื่องส่วนตัวออกจากการทำงานและนอกเหนือจากเวลาทำงานแล้ว ควรเติมพลังบวกให้กับตัวเอง เลือกใช้เวลาอยู่กับคนที่เห็นคุณค่า เคารพในตัวเอง หันไปออกกำลังกาย นั่งสมาธิ ทำงานศิลปะจะทำให้คุณสามารถควบคุมความโกรธให้ดีขึ้น ซึ่งจะถือว่าเป็นผู้มีความฉลาดทางอารมณ์จะหยิบจับทำอะไรก็สำเร็จ เพราะคุณสามารถควบคุมอารมณ์ภายในจิตใจของตัวเองได้แล้ว

Contact button