บัณฑิตจบใหม่วางแผนอย่างไรให้ได้งานทำ
ทุกวันนี้เราใช้เวลาขั้นต่ำในการเรียนรู้ในระบบการศึกษามากกว่า 20 ปี เพื่อให้ได้ปริญญาบัตร หลายคนคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “การศึกษา คือ การลงทุน” แล้วเคยลองคำนวณค่าใช้จ่ายทางการศึกษาทั้งหมดที่จ่ายไปหรือไม่ ว่ามีมูลค่าเท่าไร เราต้องทำงานด้วยเงินเดือนเท่าไร เป็นระยะเวลากี่ปีจึงจะคืนต้นทุนเหล่านั้น
ที่กล่าวมาด้านบนนั้น ไม่ใช่จะปฏิเสธการศึกษาในหลักสูตรปัจจุบันนี้ ในเมื่อค่าใช้จ่ายทางด้านการศึกษาทุกวันนี้ถีบตัวสูงขึ้นและมีการแข่งขันสูงขึ้นด้วย หากเราใกล้จะเข้าเส้นบัณฑิตใหม่ เราจะวางแผนชีวิตของเราอย่างไรให้จบออกมาแล้วมีอัตรารายได้สูง ลองมาดู 7 ขั้นตอนที่นักศึกษาควรทำในตอนนี้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอาชีพที่มั่นคง
1. มองหาที่ปรึกษาแนะแนวอาชีพและจัดหางานในสถานศึกษา
ในความจริงแล้วนักศึกษาควรคิดถึงอาชีพในอนาคตก่อน ว่าอยากทำอาชีพอะไรก่อนที่จะก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย โดยอาจารย์ที่ปรึกษาด้านอาชีพสามารถช่วยแนะนำพวกเขาได้ รวมถึงบางสถานศึกษายังจัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการณ์สร้างสถานการณ์ สัมภาษณ์งานนักศึกษาด้วย เพื่อให้นักศึกษาได้ลองวางแผนเลือกอาชีพก่อนเผชิญสถานการณ์จริง
2. เลือกเรียนสาขาที่ตลาดต้องการสูง
การเลือกสาขาวิชาอาจดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกไม่กี่ทางที่นักศึกษาจะเลือกในวัยที่มีอายุ 19-20 ปี หากเลือกเรียนสาขาวิชาทางด้านเทคโนโลยี, วิทยาศาสตร์ ทำให้มีโอกาสเลือกสายงานที่มีค่าตอบแทนสูง เมื่อคุณเลือกสาขาวิชาเอกของสถานศึกษา คุณควรพิจารณาว่า ทางเลือกนั้นจะทำให้คุณมีอาชีพได้อย่างไร หากคุณกำลังมองหางานที่มีรายได้สูงและไม่ต้องการเรียนสาขาวิชาเอกของสถานศึกษา คุณก็ควรมองหาสิ่งที่คุณหลงใหลและมีความสนใจ ขณะเดียวกันก็มีตลาดสำหรับการจ้างงานเช่นกัน
3. ฝึกงานสานสัมพันธ์
การฝึกงานระหว่างเรียน นอกจากช่วยให้นักศึกษามีรายได้เล็กๆ น้อยๆ ระหว่างเรียนแล้ว ยังนำมาใช้เป็น profile ในการเขียน resume อีกด้วย จริงอยู่แม้ว่าการฝึกงาน อาจได้รับผลตอบแทนที่ไม่มากนัก หรือบางแห่งอาจไม่ได้รับเลย แต่สิ่งที่จะได้รับมากกว่าเม็ดเงิน คือ ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเพื่อนร่วมงาน และคอนเน็คชั่นหลังจากบทบาทสิ้นสุดลง และทางบริษัทจะออกหนังสือรับรองการฝึกงานมาให้ เพื่อนำไปใช้อ้างอิงระหว่างการหางานเต็มเวลาทำด้วย
4. สร้างพันธมิตรทันทีที่มีโอกาส
การเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย ถือเป็นการได้พบปะผู้คนมากมายและสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน นักศึกษาควรใช้โอกาสในการสร้างเครือข่ายเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อที่พวกเขาจะได้ใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์อันดีภายหลังจากสำเร็จการศึกษาไปแล้ว เพราะการติดต่อกับผู้คนที่คุณคุ้นเคยอยู่แล้วเป็นวิธีที่ดีในการสานความสัมพันธ์ ตัวอย่างเช่น ใช้ประโยชน์จากงานแสดงสินค้าและงานพบปะศิษย์เก่า เพื่อที่พวกเขาจะได้พบปะผู้คนที่ต้องการจ้างบัณฑิตจบใหม่ การสร้างเครือข่ายไม่ได้เป็นเพียงแค่การค้นหาตำแหน่งงานที่เปิดรับเท่านั้น แต่ยังคงเกี่ยวกับการพัฒนาความสัมพันธ์ใหม่ๆ การเรียนรู้และรับคำแนะนำด้านอาชีพจากผู้อื่นที่มีประสบการณ์มากกว่าด้วย
5. สร้าง Resume อย่าโอ้เอ้รอเรียนจบ
บางครั้ง นักศึกษาอาจลังเลที่จะเริ่มสร้าง resume เมื่อรู้สึกว่า ยังไม่เริ่มอาชีพ แต่เชื่อเถอะว่ามันไม่เร็วเกินไปหรอกที่จะรวบรวมทักษะและประสบการณ์ของคุณเตรียมพร้อมให้นายจ้างเห็น การใช้คำอธิบายที่ชัดเจน การกล่าวถึงความสำเร็จด้วยข้อมูลที่แสดงถึงความสำเร็จ และรวมถึงรางวัลที่ได้รับ หรือการเป็นสมาชิกกับองค์กรต่างๆ นอกจากนี้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง LinkedIn ยังช่วยให้นักศึกษาสร้าง resume online ที่นายจ้างเข้าถึงได้ง่ายอีกด้วย
6. คลีนและเคลียร์บ้านโซเชียลของคุณ
ก่อนที่จะเริ่มหางาน นักศึกษาควรตรวจสอบบ้านโซเชี่ยลของตนเองให้เรียบร้อย เพราะบางครั้งอาจจะมีการแชร์หรือโพสต์อะไรที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะเป็นภาพลักษณ์ในเชิงลบของคุณก็ได้ จนทำให้บริษัทปฏิเสธการจ้างงานคุณ
7. เตรียมพร้อมด้านการเจรจาสื่อสาร
นอกเหนือจากทักษะเฉพาะที่ต้องมีการเติบโตในอาชีพของพวกเขา นักศึกษาควรเสริมทักษะด้านการสื่อสารแก้ปัญหาในเชิงสร้างสรรค์“ทักษะด้านอาชีพสามารถฝึกและสอนกันได้ แต่ทักษะด้านการสื่อสาร การปรับตัว และอยู่ร่วมกับผู้อื่น ต้องฝึกฝนและเปิดใจที่จะเรียนรู้เอง”เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หวังว่าข้อแนะนำด้านบนจะเป็นประโยชน์ เพื่อให้อนาคตบัณฑิตใหม่ที่จะจบสามารถนำไปปรับใช้ หรือหากใครที่เพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็นำไปปรับใช้ได้เช่นกันค่ะ เตรียมพร้อมแต่เนิ่นๆ จะได้มีเวลาเตรียมตัวและแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดได้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนสู้ในยุคที่มีการแข่งขันด้านการทำงานสูงค่ะ