AI ในงาน HR: เพื่อนช่วยงาน หรือจะมาแทนที่เรา?

ยุคนี้ไม่มีใครหนีพ้นกระแส Generative AI ที่กำลังพลิกโฉมทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งาน HR ที่ต้องจัดการกับข้อมูลมหาศาลและการตัดสินใจที่ซับซ้อนเกี่ยวกับคนหลายคนคงมีคำถามในใจ่วา AI จะเข้ามาช่วยให้งานของเราง่ายขึ้นจริงไหม? หรือสุดท้ายแล้ว เราจะถูกแทนที่ด้วยอัลกอริทึมที่เร็วกว่าและแม่นยำกว่า?ความจริงคือ AI ไม่ได้มาเพื่อแทนที่คุณ แต่มาเพื่อยกระดับบทบาทของ HR จากการเป็นนักบริหารธุรการ (Administrative Manager) ไปสู่การเป็น Strategic Thinker และ Human Connection Designerถึงเวลาที่เราต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า AI จะเข้ามาอยู่ในสมการของงาน HR ได้อย่างไร และเราจะใช้พลังของมันเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับองค์กรได้อย่างไรบ้างAI ไม่ได้มาแทนที่ แต่มาช่วย HR ใน 3 มิติหลักAI ไม่ได้มีไว้เพื่อลดจำนวนพนักงาน แต่มีไว้เพื่อเพิ่มเวลาให้ HR ได้โฟกัสกับงานที่คนเท่านั้นที่ทำได้
1. มิติการสรรหาAI เข้ามาช่วยให้การหาคนเก่งทำได้เร็วขึ้นและลดอคติ (Bias) ในการคัดเลือก• คัดกรองเรซูเม่ด้วยความแม่นยำ: AI สามารถสแกนและจัดอันดับผู้สมัครได้ภายในไม่กี่นาที โดยวิเคราะห์จากทักษะ (Skills) ประสบการณ์ และ Keyword ที่ตรงกับ Job Description มากที่สุด• HR ได้ประโยชน์: ลดเวลาในการอ่านเรซูเม่หลายร้อยฉบับ และมั่นใจว่าได้ผู้สมัครที่มีศักยภาพเข้ามาสู่กระบวนการสัมภาษณ์• Chatbots & AI Interviewers: ระบบ AI สามารถโต้ตอบกับผู้สมัครเบื้องต้น เพื่อตอบคำถามพื้นฐาน และแม้กระทั่งทำการสัมภาษณ์เบื้องต้นเพื่อประเมินบุคลิกภาพก่อนส่งต่อให้มนุษย์
2. มิติการปฏิบัติงานAI เข้ามาช่วยจัดการกับงานซ้ำซ้อนและข้อมูลที่มากมาย เช่น• จัดการ Employee Onboarding อัตโนมัติ: AI สามารถส่ง Welcome Package ตั้งค่าบัญชีการใช้งาน และจัดตารางการฝึกอบรมเบื้องต้นได้ทันที ทำให้พนักงานใหม่ได้รับประสบการณ์ที่ดีตั้งแต่ก้าวแรก• People Analytics เชิงลึก: AI ประมวลผลข้อมูลการลาออก ประสิทธิภาพการทำงาน และผลการสำรวจความผูกพัน เพื่อ คาดการณ์ว่าพนักงานคนใดมีความเสี่ยงที่จะลาออกในอนาคต ทำให้ HR สามารถเข้าแทรกแซงเชิงรุกได้• ระบบตอบคำถามอัตโนมัติ (HR Help Desk): ตอบคำถามพื้นฐานเกี่ยวกับสวัสดิการ วันหยุด หรือนโยบายบริษัทได้ตลอด 24 ชั่วโมง
3. มิติการพัฒนาAI เข้ามาช่วยปรับแผนการพัฒนาบุคลากรให้เป็นรายบุคคล• แนะนำหลักสูตรเฉพาะบุคคล: AI วิเคราะห์ช่องว่างทักษะ (Skill Gaps) ของพนักงานแต่ละคน และแนะนำคอร์สเรียนหรือการฝึกอบรมที่ตรงกับความต้องการในการเติบโตในสายอาชีพของพวกเขา• เครื่องมือ Coaching & Feedback: AI สามารถช่วยวิเคราะห์โทนเสียงและภาษาที่ใช้ในการสื่อสารของผู้บริหาร เพื่อเสนอแนะแนวทางการให้ Feedback ที่สร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สิ่งที่ AI ทำไม่ได้ และเป็นหน้าที่ของ HR ยุคใหม่แม้ AI จะเก่งกาจในการวิเคราะห์และจัดการข้อมูล แต่มี 3 หัวใจสำคัญของงาน HR ที่เทคโนโลยีไม่สามารถทำแทนได้เลย• การให้คำปรึกษาปัญหาชีวิต การรับฟังความกังวลส่วนตัว หรือการสร้างความรู้สึกมั่นคงทางจิตใจ เป็นสิ่งที่ต้องใช้มนุษย์ เท่านั้น• การออกแบบและหล่อหลอมวัฒนธรรมองค์กร การสร้างความผูกพันทางอารมณ์ และการสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วม• การจัดการกับความขัดแย้งที่ซับซ้อน ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล หรือการเจรจาต่อรองในสถานการณ์วิกฤติ
AI คือเครื่องมือที่ปลดปล่อย HR ออกจากงานธุรการ เพื่อให้คุณมีเวลาไปทำในสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือ การลงทุนในคนและกลยุทธ์ อย่ามอง AI เป็นภัยคุกคาม แต่จงมองเป็นโอกาสในการอัปเกรดทักษะและบทบาทของคุณให้เป็น HR Strategist ที่ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูลและกลยุทธ์บุคลากรที่แม่นยำPeoplePlus พร้อมเป็นที่ปรึกษาในการบูรณาการเทคโนโลยี AI และ People Analytics เข้ากับกระบวนการ HR ขององค์กรคุณ เพื่อให้คุณสามารถดึงดูด รักษา และพัฒนาคนเก่งได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
