ตัดสินใจอย่างไรภายใต้ภาวะกดดัน
เมื่อเราเติบโตขึ้น สิ่งหนึ่งที่เราต้องหันไปขอบคุณคือ “ความกดดัน” เพราะสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเราไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน ล้วนมี “ความกดดัน” เข้ามาเกี่ยวข้องและเป็นตัวแปรในการตัดสินใจด้วยทั้งสิ้น และน่าสงสัยเหมือนกันที่การตัดสินใจภายใต้ความกดดันนั้น มักจะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเสมอ สาเหตุของความกดดัน อาจมาจากหลายสาเหตุ อาทิเช่น เวลาจำกัด, ภาวะอารมณ์ที่ไม่ปกติ, หรืออะไรก็ตามแต่ สิ่งเหล่านี้ทำให้เราถูกกดดันที่จะต้องทำการตัดสินใจลงไป การตัดสินใจในแต่ละครั้ง เราควรวางใจให้เป็นกลาง คิดถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงในการตัดสินใจแต่ละครั้ง แม้ว่าในความเป็นจริงของมนุษย์นั้น มันคงเป็นเรื่องยากที่จะกำจัดอคติในใจเราให้หมดไป แต่เราสามารถลดอคตินั้นลงได้ โดยใช้กระบวนการที่เชื่อถือได้และใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เราลองมาดูกันดีกว่าว่ามีวิธีใดบ้างที่จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจให้กับเราภายใต้ภาวะกดดัน
1. รู้ทันสถานการณ์
ขุมพลังอันยิ่งใหญ่คือความรู้ ยิ่งคุณเข้าใจการตัดสินใจได้ดีเท่าไหร่ก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจได้ดีเท่านั้น ดั่งสุภาษิตที่ว่า “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” อันดับแรกเลยคือทำการศึกษาเนื้อหาที่ต้องต้องใช้รวมถึงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ศึกษามันจนกว่าคุณจะสนิทสนมกับมันใช้เทคนิคการวิจัยที่หลากหลาย อย่าพึ่งพาหลักฐานเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นความคิดเห็นของเพื่อนที่เชื่อถือได้เพียงคนเดียว ไม่สามารถบอกได้ว่ามันคือข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริงเสมอ คุณควรจะหาข้อมูลหลาย ๆ ทาง และนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์อย่างละเอียด เพื่อลดความพลิ้วไหวและความบิดเบือนของข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น
2. รู้ผลลัพธ์
จากข้อมูลที่คุณได้มาทั้งหมด คุณต้องนำข้อมูลเหล่านั้นมีคิด วิเคราะห์ และหาคำทำนายที่ไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทั้งหมด เพราะคุณไม่มีทางหยั่งรู้อนาคตได้ แต่ข้อมูลและความรู้ที่คุณรวบรวมไว้ต่างหากที่จะเป็นตัวช่วยให้คุณเข้าใกล้มันได้มากขึ้น ทำให้การคาดการณ์ที่คุณทำนายไว้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด อย่างเช่น คุณอาจจะมองว่า
• อะไรคือผลกระทบระยะสั้น?
• อะไรคือผลกระทบระยะยาวที่อาจจะสำคัญกว่าและต้องตระหนักถึง ?
• ผลของการตัดสินใจของคุณจะกระทบกับผู้อื่นในอนาคตหรือไม่ ?
หลังจากทำการวิจัยอย่างหนัก คุณภาพของการตัดสินใจของคุณอาจจะถูกปิดกั้นจากความคุ้นเคยที่คุณเคยชิน ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่าการตัดสินใจแต่ละครั้งทำให้คุณได้อะไรในระยะสั้นและระยะยาว การมองเช่นนี้จะช่วยทำให้คุณเห็นภาพซึ่งเป็นผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
3. ลงลึกเป้าหมาย
ลงลึกเป้าหมาย คุณต้องทำการพูดคุยกับกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ได้เป็นเพื่อนของคุณ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือมีความรู้ในพื้นที่ที่คุณต้องตัดสินใจ ขั้นแรกที่กล่าวถึงไปเป็นการศึกษาวิจัยสืบค้นหาข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่แล้ว เป็นข้อมูลที่คงที่และไม่สามารถปรับให้เหมาะกับสถานการณ์ของคุณได้ ผู้มีความรู้และเชี่ยวชาญด้านวัตถุประสงค์สามารถดูสถานการณ์ของคุณและไม่ชี้นำคุณว่าสิ่งที่พวกเขาแนะนำเป็นสิ่งที่ควรทำและถูกต้อง พวกเขาเพียงแต่แนะนำแนวทางในการดำเนินการที่ดีที่สุดเท่าที่ผู้เชียวชาญให้ความสนใจ แต่หากคุณไม่รู้สึกว่าเห็นด้วยหรือมีความเห็นสอดคล้องกับคำแนะนำเหล่านั้น ก็อย่าเพิ่งปล่อยผ่านหรือมองข้ามไป ให้ลองขอความเห็นที่สองหรือต่อ ๆ ไปของพวกเขาเพราะอาจมีประโยชน์และใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณก็ได้
4. ความมุ่งมั่น
ความยากและลำบากในการตัดสินใจภายใต้ภาวะกดดันไม่เป็นแค่การยากที่จะตัดสินใจตั้งแต่แรก แต่เป็นเรื่องยากที่คุณต้องยอมรับให้ได้ว่าเส้นทางที่คุณเลือกมาจากการคิดวิเคราะห์ พิจารณาข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้รับมาอย่างถ้วนถี่แล้วนั้นเป็นแนวทางที่ถูกต้องและเหมาะสมสำหรับสถานการณ์ของคุณ ซึ่งมันอาจจะไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคาดคิด ดังนั้นคุณต้องมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ เด็ดเดี่ยว ไม่ถอยหลังกลับจนล้มเลิกปฏิบัติการในครั้งนี้ของคุณ
หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากลองเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากมีความมั่นคงทางอารมณ์และนำไปสู่การตัดสินใจภายใต้ภาวะกดดันได้อย่างชาญฉลาด ลองฝึกปรือตามคำแนะนำเหล่านี้ดู สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแนวทางให้คุณนำไปปรับใช้เท่านั้น แต่การแก้ปัญหาในชีวิตจริง ช่างต่างกับการแก้สมการในโจทย์คณิตศาสตร์โดยสิ้นเชิง เพราะปัจจัยที่เป็นตัวแปรของแต่ละสถานการณ์ไม่เหมือนกัน อย่ามัวแต่ศึกษาและหาความรู้ในตำรา แต่จงนำความรู้ที่คุณได้รับมาจากทุกแหล่งไปปรับใช้ คิดวิเคราะห์ให้ถ้วนถี่ ใช้จิตนำทาง วางอคติลง แม้ว่าความกดดันของโลกกำลังมุ่งหน้าเข้าหาคุณ แต่หากคุณใช้หลักการข้างต้นเป็นแนวทางในการปฏิบัติและตัดสินใจ เชื่อว่าคุณจะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้ในไม่ช้านี้