ฝึกคนให้เก่งขึ้นได้อย่างไร? โดยไม่ต้องรอให้ลาออกก่อน
ฝึกคนให้เก่งขึ้นได้อย่างไร? โดยไม่ต้องรอให้ลาออกก่อน
หลายองค์กรยังคงเผชิญปัญหา “เสียคนเก่งไปแล้ว ถึงเพิ่งมาคิดเรื่องพัฒนา” พอพนักงานลาออก จึงรู้สึกเสียดายความรู้และประสบการณ์ที่สะสมมา แต่ในความจริงแล้ว องค์กรไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงจุดนั้น เพราะการ “ฝึกคนให้เก่งขึ้น” สามารถทำได้ตั้งแต่วันที่เขายังอยู่กับเรา
การลงทุนกับพนักงานวันนี้ ไม่ได้แค่ช่วยรักษาคนเก่งให้อยู่กับทีม แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจและแรงขับเคลื่อนใหม่ ๆ ให้กับองค์กรทั้งระบบ
1. เปลี่ยนจาก Training แบบเดิม เป็น Learning Cultureการอบรมแบบนั่งเรียน 1–2 วันแล้วจบ อาจไม่ตอบโจทย์ยุคนี้อีกต่อไป เพราะความรู้และทักษะใหม่ ๆ เปลี่ยนเร็วกว่าที่คิด องค์กรที่อยากให้พนักงานเก่งขึ้นจริง ต้องเปลี่ยนจาก “การฝึกอบรมเป็นครั้งคราว” ไปสู่ “วัฒนธรรมการเรียนรู้” ที่เกิดขึ้นทุกวัน ทำงานไปก็เรียนรู้ไป แบ่งปันกันได้ตลอดเวลาส่งเสริมให้พนักงานเรียนรู้จากงานจริง (Learning by Doing)มีพื้นที่ให้แชร์ความรู้ เช่น Lunch & Learn, Knowledge Sharing Sessionใช้เทคโนโลยี Learning Platform หรือ Micro Learning ที่เข้าถึงง่าย เรียนได้ทุกที่ทุกเวลาเมื่อการเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน พนักงานจะเติบโตขึ้นโดยไม่ต้องรอการลาออกมาเป็นตัวกระตุ้น
2. สร้างเส้นทางการเติบโตที่ชัดเจน (Career Path)สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนลาออกคือ “ไม่เห็นอนาคต” ของตัวเองในองค์กร การสร้าง Career Path ที่ชัดเจนจึงเป็นเสมือนแผนที่บอกว่า ถ้าอยู่ต่อไป พวกเขาจะได้พัฒนาไปสู่บทบาทไหน และต้องเสริมทักษะอะไรบ้าง เมื่อพนักงานเห็นอนาคตที่จับต้องได้ ความตั้งใจทำงานก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลวาง Career Path ที่โปร่งใส ว่าหากอยู่ต่อไปเขาจะเติบโตได้อย่างไรใช้ระบบ HR ที่ช่วยติดตามความก้าวหน้าและเป้าหมายของพนักงานมีการพูดคุย 1-on-1 อย่างสม่ำเสมอ ให้รู้ว่าพนักงานต้องการพัฒนาอะไร
3. ใช้โมเดล Coaching & Mentoringการเรียนรู้ที่ทรงพลังที่สุด มักไม่ได้มาจากตำรา แต่จากการพูดคุยกับคนที่มีประสบการณ์จริง Coaching และ Mentoring จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้พนักงานได้ทั้งมุมมองใหม่ และทักษะที่ใช้ได้จริง พร้อมแรงสนับสนุนที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่าไม่ได้เดินลำพังCoaching: เปิดพื้นที่ให้หัวหน้าช่วยตั้งคำถาม กระตุ้นให้พนักงานคิดหาคำตอบด้วยตัวเองMentoring: จับคู่กับรุ่นพี่หรือผู้มีประสบการณ์ เพื่อแชร์ insight จริงจากการทำงานสร้างระบบ Feedback ที่ต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่รอประเมินปลายปี
4. ให้โอกาสทดลอง และล้มได้โดยไม่ถูกลงโทษไม่มีใครเก่งขึ้นได้โดยไม่เคยล้ม การเปิดโอกาสให้พนักงานได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ หรือโปรเจกต์ที่ท้าทาย จะทำให้พวกเขาออกจาก comfort zone และค้นพบศักยภาพที่แท้จริง องค์กรที่ให้พื้นที่ “ผิดได้–เรียนรู้ได้” จะมีพนักงานที่กล้าคิด กล้าทำ และเติบโตไวกว่าเดิมมอบโปรเจ็กต์พิเศษ (Stretch Assignment) ให้คนได้ออกจาก comfort zoneให้พื้นที่ “ทดลอง–ผิดพลาด–เรียนรู้” โดยไม่ถูกตำหนิองค์กรที่มี Psychological Safety จะทำให้พนักงานกล้าคิด กล้าลงมือ และเติบโตเร็วขึ้น
5. ลงทุนกับเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาการพัฒนาคนไม่จำเป็นต้องยุ่งยากอีกต่อไป เพราะเทคโนโลยี HR และ Learning Tools ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นและตรงจุด องค์กรที่ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ลดเวลาและต้นทุน แต่ยังทำให้พนักงานรู้สึกว่าการเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกและส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันLearning Management System (LMS) ที่เก็บเส้นทางการเรียนรู้ของแต่ละคนAI ที่ช่วยแนะนำคอร์สหรือสกิลใหม่ ๆ ตามความสนใจของพนักงานAnalytics ที่บอกได้ว่าการพัฒนาส่งผลต่อ Performance จริงหรือไม่
6. สร้างบรรยากาศที่คนรู้สึก “อยากพัฒนา”สุดท้าย ต่อให้มีเครื่องมือดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีแรงบันดาลใจ พนักงานก็อาจไม่อยากเรียนรู้ การสร้างวัฒนธรรมที่ทำให้ “การเรียนรู้ = เรื่องน่าภูมิใจ” คือหัวใจสำคัญ เมื่อคนรู้สึกว่าทุกความพยายามในการพัฒนาตัวเองได้รับการยอมรับและเห็นคุณค่า พวกเขาจะเลือกพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องมีใครบังคับยกย่องพนักงานที่เรียนรู้สิ่งใหม่และนำมาใช้จริงให้รางวัลกับการพัฒนา ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์สุดท้ายสร้างบรรยากาศที่ “การเรียนรู้ = ความเท่” ไม่ใช่ “ภาระเพิ่ม”
การฝึกคนให้เก่งขึ้นไม่ใช่เรื่องที่ต้องรอให้ลาออกแล้วค่อยมานั่งเสียดาย แต่เป็นสิ่งที่องค์กรสามารถทำได้ตั้งแต่วันนี้ ผ่านการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ Career Path ที่ชัดเจน และระบบสนับสนุนที่ทำให้คนกล้าลองและกล้าเติบโตที่สำคัญคือ เมื่อพนักงานรู้สึกว่าองค์กร “เห็นคุณค่า” และ “พัฒนาเขาอยู่ตลอดเวลา” เขาจะเลือกอยู่ต่อ ไม่ใช่เดินออกไปPeoplePlus พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ด้าน HR ที่ช่วยให้องค์กรสร้างระบบการพัฒนาคนที่ยั่งยืน เพราะ “พนักงานที่เติบโต = องค์กรที่เติบโต”
